วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ประวัติความเป็นมาของ พิณ

ประวัติความเป็นมาของ พิณ
พิณ เป็นเครื่องดนตรีในสกุลเครื่องสายซึ่งประกอบด้วย กะโหลกและคอ มีสายขึงใช้ดีด อาจดีดด้วยมือแผ่นพลาสติกหรือแม้แต่เศษวัสดุที่เป็นแผ่นถากออกมาจากเขาสัตว์ หรือกระดองเต่า (Midgley.1978:167-179) มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ตตะ หมายถึง เครื่องดนตรีที่มีสายสำหรับดีดเป็นเสียงสันนิษฐานว่า ตตะนี้คงจะได้แบบอย่างมาจากที่ใช้สายขึ้นคันธนู เกิดการสั่นสะเทือน แต่ สายธนูที่ทำหน้าที่เป็นตัวสั่นสะเทือนนั้นจะแตกต่างกันไปตามความยาว สั้นของคันธนู มีเสียงดังไม่มากนัก หาวัตถุที่ช่วยให้การเปล่งเสียงมากขึ้น จึง ใช้วัตถุที่กลวงโดยเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเช่น ผลน้ำเต้า กะโหลกมะพร้าว กระบอกไม้ไผ่หรือไม้ที่ขุดทะลุทะลวงตลอด จึงเรียกส่วนนี้ว่า “วีณโปกขร” หรือกระพุ้งพิณ(Resonator)(อุดม อรุณรัตน์. 2526:91)
 พิณของชนเผ่าสุเมเรียน ที่เรียกว่า ไลร์ มีมาแล้วก่อนคริสตศักราชถึง 3,000 ปี และใช้กันอย่างกว้างขวางในกลุ่มชนอียิปต์โบราณ กรีกโบราณและยุโรปสมัยกลาง ในแอฟริกา มันถูกใช้เล่นประกอบในพิธีกรรมบางอย่าง (Lsaacs and Martin.1982:225-226) ใน ลัทธิของศาสนาพราหมณ์มีความเชื่อมั่นว่าการบูชาด้วยเสียงดนตรีที่มีสาย ติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน เป็นวิถีอันที่จะบรรลุถึงซึ่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระศิวะได้(เดอบาร์รี 2512:513)
ในทางพุทธศาสนานั้น วิถีพระโพธิญาณ ของสมเด็จพระมหาสัตว์ก็ได้อาศัยสายกลางแห่งพิณที่สมเด็จพระอัมรินทราธิราชทรงดีดถวายถึงได้ตรัสรู้สำเร็จสมโพธิญาณว่า การบำเพ็ญเพียรแสวงหาโมกษธรรมนั้น ถ้า เคร่งครัดนักก็เปรียบเสมือนการขึ้นสายพิณให้ตึงเกินไปดีดแล้วย่อมขาดถ้า หย่อนยานนักย่อมไม่มีเสียงไพเราะเหมือนขึ้นสายพิณหย่อน แต่ถ้าทำอยู่ในขั้นมัชฌิมาปานกลาง ก็เปรียบเสมือนการขึ้นสายแต่เพียงพอดีกับระดับเสียงย่อมจะให้เสียงดังกังวานไพเราะแจ่มใส ดังใจความในวรรณคดีเรื่อง พระปฐมสมโพธิถากลางถึงพิณไว้ในตอนทุกกิริยาปริวรรต ปริจเฉทที่ 8 ว่า
ขณะนั้น สมเด็จอมรินทราธิราชทราบในข้อปริวิตก ดังนั้น จึงทรงซึ่งพิณทิพย์ สามสายลงมาดีดถวายพระมหาสัตว์ สายหนึ่งเคร่งนัก พอดีดก็ขาดออกไป สายหนึ่งหย่อนนักดีดเข้าก็ไม่บันลือเสียงและสายหนึ่งนั้นไม่เคร่งไม่หย่อนเป็นปานกลางดีดเข้าก็บรรลือศัพท์ ไพเราะเจริญจิต พระมหาสัตว์ได้สดับเสียงพิณก็ถือเอานิมิตอันนั้นทรงพิจารณาแจ้งว่า มัชฌิมปฏิบัตินั้นเป็นหนทางพระโพธิญาณ
วรรณคดีเรื่องสักกปัญหสูตร ได้กล่าวถึงพิณที่พระปัญจสังขรดีดไว้ในสักกปัญหสูตรทีฆนิกายมหาวรรค (อุดม อรุณรัตน์.2526 :93-96) ไว้ว่า พิณมีสีเหลืองเหมือนผลมะตูมสุก กระพุ้งพิณนั้นแล้วด้วยทองทิพย์ คัณพิณแล้วด้วยแก้วอินทนิล สายนั้นแล้วด้วยเงินงามลูกบิดแล้วด้วยแก้วประพาฬ พลางขึ้นสายทั้ง 50 ให้ได้เสียงแล้วจึงดีดพิณให้เปล่งเสียงอันไพเราะ นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ฉลาดในการยังพิณให้เปล่งเสียงแล้ว พระปัญจสิงขรยังคิดแต่งเพลงขับได้อย่างไพเราะไว้เป็น คีตูปสญหิโต ธมโม ธรรมประกอบคีตอีกด้วย บรมครูทางดนตรีไทยถึงได้ยกย่องบูชาพระปัยจรสิงขรว่า เป็นครูทางดนตรีไทยถึงได้ยกย่องบูชาพระปัญจรสิงขรว่าเป็นครูทางดนตรี (การเปล่งเสียงจากสาย) จึงได้บรรจุไว้ในโองการไหว้ครูดุริยดนตรีไทยว่า พระปัญจสิงขร พระกรเธอถือพิณดีดดังเสนาะสนั่น
ในวรรณกรรมอีสาน 7เรื่อง ได้กล่าวถึงพิณไว้ดังตัวอย่างดังนี้ (สันทนา ทิพวงศา.2535:56-153)
เรื่องขูลูนางอั่ว ได้กล่าวถึงพิณว่า
ค้อมว่าแล้ว ตีเสบนันเนือง
พิณโพนขับ หน่อพุทธโธเมืองฟ้า
เรื่องท้าวก่ำกาดำ ได้กล่าวถึงพิณว่า
ดุริยาพร้อม ดนตรีพิณพาทย์
ระบำต่อยต้อง ชอได้ต่อยสาย
เรื่องผาแดงนางไอ่ ได้กล่าวถึงพิณว่า
มีทัง สมณาเจ้า ไหลมาเดียระดาษ
ฝูงหมู่ พิณพาทย์ฆ้อง ดังก้องสนั่นเมือง
เรื่องสังข์ศิลป์ชัย ได้กล่าวถึงพิณว่า
ฝูงเคยเหล้น ตีตะโพนพิณพาทย์
ขับแข่งฮ้อง โคลงฟ้ากาพย์สาร
เรื่อง กาฬะเกษ ได้กล่าวถึงพิณว่า
เขาก็ ตึตะโพนพิณเสพสวนเสียงห้าว
ตาตีตั้ง ภาวแพรฮับราช
เรื่อง จำปาสี่ต้น ได้กล่าวว่า
ฟังยื่น ควรควนก้อง ดุริยาม่วนมี่พุ้นเยอ
พิรพาทย์ฆ้อง ยวงย้ายย่างเชิง
เรื่องพญาคันคาก ได้กล่าวว่า
คี่น ๆ ก้อง เสียงเสพนันตีพุ้นเยอ
ควน ๆ เสียง พาทย์พิณแคนได้
คนไทยได้เคยใช้พิณหรือซุงเป็นเครื่องบรรเลงมาแต่ครั้งโบราณ จากหลักฐานภาพปูนปั้นประดับฐานเจดีย์ที่เมืองโบราณ บ้านคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นรูปนางทั้งห้า บรรเลงดุริยดนตรี นางหนึ่งบรรเลงพิณเพียะ นางหนึ่งดีดพิณ 5 สาย นางหนึ่งตีกรับ นางหนึ่งตีฉิ่ง และอีกนางหนึ่งเป็นนักร้องขับลำนำ ภาพปูนปั้นดังกล่าวเป็นศิลปะสมัยทวารวดี สันนิษฐานว่า คงปั้นขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16(สำเร็จ คำโมง. 2538 : 477) สันนิษฐานว่าพิณเข้ามาสู่ประเทศไทยเมื่อประมาณ 1,000 ปีมาแล้ว ซึ่งของเดิมมาจากจีนตอนใต้ โดยที่เราได้ดัดแปลงนำเข้าไปเล่นกับเครื่องดนตรีไทย เช่น ระนาด ฆ้องวง ซอ กลอง ฉิ่ง ฯลฯ เราเรียกวงนี้ว่า วงพิณพาด ต่อมาพิณได้หายไปจากวงพิณพาด ด้วยเหตุใดไม่ปรากฏกลับมาใช้ปี่แทน เรียกวงพิณพาดใหม่ว่า วงปี่พาด (ประยุทธ เหล็กกล้า.2512:44)
สำหรับซุง หรือพิณของคนไทยภาคอีสานนั้น น่าที่จะวิวัฒนาการขึ้นมาจากสะนุ (หรือธนู) ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่มีสายขึงเป็นรูปคันธนูใช้ดีดเล่นหรือผูกหัวว่าวชักขึ้นไปในท้องฟ้า ให้ลมบนพัดแล้วเกิดเสียงส่วนที่เป็นเต้าเสียงนั้น น่าที่จะมาจาก 2 ทาง คือ จากกระบอกไม้ไผ่ เพราะยังมีพิณกระบอกไม้ไผ่ให้เด็กเล่นอยู่ในสังคมไทยภาคอีสาน และอีกทางหนึ่งมาจากพิณสายเครือหญ้านาง ซึ่งขุดหลุมลงไปในดินเป็นเต้าขยายเสียง และขึงสายเครือหญ้านางเป็นสายพิณพาดบนปากหลุมนั้น มัดหัวท้ายของสายเข้ากับหลัก 2 หลัก เวลาเล่นใช้ตีหรือดีดสายเกิดเสียง ดังตึงตึงคล้ายกลอง
ที่มาจาก
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=341693

วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ทองใส ทับถนน ต้นฉบับ1.flv

เดี่ยวพิณ

รุ้งสยามบันเทิงศิลป์ 4




หมอลำบ้านดอนก่อ
โดยทีมงาน บ่พอปัว,สติแตก,คิมบอม

ลำเดินดง.flv




















โดยทีมงาน
บ่พอปัว,สติแตก,คิทบอม

ลำคอนสะหวัน1



โดยทีมงาน
บ่อพอปัว
สติแตก
คิมบอม

07 ฟ้อนบายศรีสู่ขวัญ วงแคน มมส.




โดยทีมงาน
บ่พอปัว
สติแตก
และคิมบอม

พิณคอร์ดสลับโซโล BY ประมุขพิณ.flv





มูยามูย่า

ลายลมพัดพร้าว

ลายลมพัดพร้าว
จากความสนใจเป็นพิเศษทำให้ควัก ตังค์ซื้อพิณมาครอบครองไว้ แล้วจะเริ่มหัดเล่นยังไงล่ะตั้งสายก็ยังไม่เป็นและไม่รู้จะเริ่มตรงไหนด้วย ถามอากู คำตอบยอดฮิตเมื่อคิดอะไรไม่ออกอากูเกิ้ลช่วยได้เสมอ ก็ได้รู้การตั้งที่นิยมกันคือสายหนึ่งเสียงมี สายสองเสียงลา สายสามเสียงมีต่ำ ปัญหาเกิดอีกแล้วครับแล้วเสียงมีนี่มันดังยังไง?
ต้องวิ่งไปยืมเครื่องเทียบสาย กีตาร์เพื่อนมาใช้เทียบเสียง หุหุหุ ขอยืมใช้ก่อนสักเดือน เอาล่ะทีนี้มาถึงการฝึกบ้างแล้วฝึกจับปิ๊ก ดีดสาย ฝึกแบบลูกทุ่งไม่มีครูไม่มีอาจารย์ หาฟังหาโน้ตจากเน็ตจนได้โน้ตลายแรกที่ฝึก คือ ลมพัดพร้าว จากที่เคยได้ยินแต่ชื่อจนติดหูวันนี้ได้มีโอกาศได้ฟังและได้หัดเล่นแล้วครับ งั้นมาหัดเล่นไปพร้อมๆกันเลยครับ

 วันนี้พิมพ์โน้ตเป็นภาษาอังกฤษ ยังไงลายต่อไปจะพิมพ์ภาษาไทยละกันครับ

C DCDE
(EAG GAE EAG GBA
ADB BDA ABA BABG
GAG AGAC ACDG DEGE
DBDA BGAC ACDG DEGE

AAE AAE AGE AGE
*EGE DEGE AEGC DEGE
*EGE DEGE AEGC DEGE
AC AD
*C AECD EGCA GEGD
*C AECD EGCA GEGD )
C ACDE
ท่อนจบ
(AE DG DE AC AE GD EA DCA)

การตั้งสายพิณ

การตั้งสายพิณ
ตัวอย่างการตั้งสายพิณแบบต่างๆ (กรณีเป็นพิณสามสาย)
แบบมาตรฐาน กรณีใช้โน้ตเพลงคีย์ลายน้อย
 แบบมาตรฐาน กรณีใช้โน้ตเพลงคีย์ลายใหญ่

*** พิณสองสาย ก็ตั้งสายเหมือนกันนี้ แต่ไม่มีสายที่3 เท่านั้น
ตั้งเพื่อสะดวกต่อการเล่นลายลำเพลินเต็มรูปแบบ (ลายใหญ่)
 ตั้งเพื่อสะดวกต่อการเล่นเพลงลูกทุ่ง (ลายใหญ่)

หมายเหตุ : ขั้นแบ่งเสียงที่เป็นเส้นประ หมายถึง ขั้นแบ่งเสียงที่ติดเพิ่ม ขึ้นอยู่กับมือพิณแต่ละคน
ที่มาจาก

พิณ กุ้งเต้นหาดกุดเดื่อ(ลำซิ่ง)9.flv

เดี่ยวกีตาร์ไฟฟ้าลายพิณตอนที่ 2

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ซาวด์ลำซิ่ง อาจารย์บาน 3 เซิ้งบังไฟ

ซาวด์ลำซิ่ง อาจารย์บาน 5 (โซว์วง)

ซาวด์ลำซิ่ง อาจารย์บาน

หมอลำ พิณแกนแคนห่าว ชัยภูมิ Chaiyaphum 1

ลำซิ่ง พิณแกนแคนห่าว เวทีใหม่ 2011 KC Sound 3